วันพฤหัสบดีที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

                   โรคซึมเศ้าหายได้...ถ็ารักษา                  

👉โรคซึมเศร้าเป็นโรคที่เกิดจากหลายปัจจัยมาก ในคนไข้ที่เป็นโรคซึมเศร้าแต่ละคนก็มีความเป็นมาไม่เหมือนกัน โดยภาพรวมก็เป็นปัจจัยทางด้านจิตใจ ซึ่งคนที่เป็นโรคซึมเศร้าก็มีแนวโน้มที่จะมองตัวเองในทางลบอยู่แล้ว อาจจะเกี่ยวกับการเลี้ยงดูมาตั้งแต่วัยเด็กที่อาจจะถูกทอดทิ้ง หรือว่าใช้ความรุนแรง หรือว่ามีความห่างเหินทางด้านจิตใจระหว่างผู้ป่วยกับพ่อแม่ หรือมีการเลี้ยงดูที่ไม่ค่อยถูกต้องต่าง ๆ ไม่ค่อยได้เสริมให้เด็กมีกำลังใจหรือว่าเป็นคนที่มีความภาคภูมิใจในตัวเอง หรือว่าอาจจะมีความเครียดต่อเนื่องกันมานาน ๆ สุดท้ายแล้ว ประสบการณ์ที่เขาเติบโตมา ไม่ว่าจะเป็นจากการเลี้ยงดู หรือว่าปัญหาต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันที่ทำให้เกิดความเครียดต่าง ๆ มันก็มีผลต่อการทำงานของสมองที่ควบคุมเรื่องของอารมณ์




การรักษาด้วยยาทางจิตเวชที่รักษาโรคซึมเศร้า จะไม่ใช่ยาที่รับประทานแล้วจะดีขึ้นมาในวันสองวัน ส่วนใหญ่จะใช้เวลาเป็นสัปดาห์ 1-2 สัปดาห์ขึ้นไปถึงจะดีขึ้น หากถามว่ามีผลข้างเคียงอย่างไร โดยทั่วไป ถ้าเป็นยารักษาโรคซึมเศร้ารุ่นเก่า ๆ ก็จะมีผลข้างเคียงเยอะตั้งแต่ปากแห้ง ท้องผูก ใจสั่น แต่ยารักษาโรคซึมเศร้ารุ่นหลัง ๆ ผลข้างเคียงต่าง ๆ จะน้อยกว่ายารุ่นก่อน แต่ก็จะยังมีอยู่ เช่น อาจจะมีความรู้สึกคลื่นไส้ พะอืดพะอม บางคนก็จะเวียนหัว อาจจะมีใจสั่นมือสั่นบ้าง แต่โดยทั่วไป ผลข้างเคียงมันก็จะค่อย ๆ ลดลงเหมือนเราทนกับยาได้มากขึ้น

ถ้าหมอไม่ได้อธิบายไว้ก่อน คนไข้ก็จะไม่ค่อยอยากกินยาเพราะว่าการกินยาช่วงแรก ผลของมันจะยังไม่เห็น แต่ว่าผลข้างเคียงจะมาก่อน เพราะฉะนั้นคนไข้ก็จะต้องเข้าใจเหมือนกันว่า ช่วงแรกอาจจะต้องทนกับผลข้างเคียงนิดหนึ่ง แล้วมันก็จะลดลง ส่วนเรื่องอารมณ์มันจะใช้เวลาระยะหนึ่ง โดยทั่วไปประมาณ 1-2 สัปดาห์ที่จะเริ่มเห็นผลได้ชัดเจน

การรักษาโรคซึมเศร้าต้องมีการบำบัดทางด้านจิตใจร่วมด้วย และยารักษาโรคซึมเศร้าตัวหนึ่ง ไม่ใช่ได้ผลกับทุกคน บางคนก็อาจจะได้ผลดีกับตัวนี้ บางคนก็อาจะได้ผลดีกับอีกตัว เพราะฉะนั้น เวลาเริ่มรักษา ถ้ารักษาไประยะหนึ่ง เช่น 4 สัปดาห์ หรือ 6 สัปดาห์ แล้วดูอาการยังไม่ค่อยดีขึ้น หมอก็อาจจะพิจารณาการรักษาให้เหมาะสมกับคนไข้แต่ละคน

คนที่เป็นโรคซึมเศร้ารักษาด้วยยาอย่างเดียวไม่พอ มันมีวิธีอื่น ๆ อีก อันดับแรกก็คือ ถ้าพอไหว พยายามทำกิจวัตรประจำวันให้ใกล้เคียงกับปกติมากที่สุด อาจจะต้องฝืนไปบ้าง บางคนออกไปข้างนอก ไปพบปะผู้คน บางทีทำได้ แต่เขาบอกว่ากลับมาบางทีเหมือนมันดูดพลังไปหมดทั้งวันเลย กลับมานอน แต่ว่าก็ต้องพยายามทำนิดหนึ่ง คือพยายามทำกิจวัตรประจำวันให้เป็นปกติเข้าไว้ แล้วก็อาจจะต้องใช้วิธีอื่น ๆ เช่น การออกกำลังกาย การผ่อนคลายความเครียดด้วยวิธีทั่ว ๆ ไป เช่น ฟังเพลงหรืออะไรทำนองนี้ ถ้ามีความพร้อมที่จะสนใจทางธรรมะ ก็เป็นสิ่งที่ดีอันหนึ่ง แต่โดยทั่วไปคนที่ซึมเศร้าช่วงแรก ๆ ใจจะยังไม่พร้อมที่จะไปทางฝึกสมาธิ ไปทางเรียนรู้ธรรมะ แต่ถ้าพร้อมก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วย


16 ความคิดเห็น:

  1. ขอบคุณที่ให้ความรู้ กำลังเป็นพอดีเลยย

    ตอบลบ
  2. ขอบคุณที่ให้ความรู้🙏🏻

    ตอบลบ
  3. เนื้อหาเยอะทำให้ได้ความรู้มากเลยค่ะ

    ตอบลบ
  4. ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ

    ตอบลบ
  5. ให้ข้อมูลได้ดีมากละเอียดดีค่ะ

    ตอบลบ
  6. ให้คำเเนะนำดีมากๆเลยค่ะ

    ตอบลบ
  7. อ่านสรุปเข้าใจง่ายดีครับ

    ตอบลบ
  8. ขอบคุณสำหนับข้อมูลนะคะ เข้าใจขึ้นมากเลยค่ะ

    ตอบลบ
  9. น่ากลัวมากค่ะโรคนี้

    ตอบลบ
  10. แนะนำได้ดีมากค่ะ เข้าใจมากเลย

    ตอบลบ
  11. ให้คำแนะนำดีมากๆเลยค่ะ อ่านแล้วเข้าใจ

    ตอบลบ
  12. แนะนำดีมากๆเลยค่ะ

    ตอบลบ
  13. ความรู้เเน่นมากเลยค่ะขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆเเละน่าสนใจมีประโยชน์มากเลยค่ะการนำเสนอดีมากค่ะ

    ตอบลบ
  14. มีประโยชน์มากครับ

    ตอบลบ

สุราษฏ์ก็มาดี

เกาะเต่า  แหล่ง ท่องเที่ยว ชื่อดังของจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นส่วนหนึ่งของ อ.เกาะพะงัน ที่จะมีนัก ท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ มาเที่ย...